แชร์

"ค่าติดตั้ง" กล้องวงจรปิด: คิดราคายังไง? ทำเองประหยัดกว่าจริงหรือ? (เทียบให้เห็นชัดๆ!)

อัพเดทล่าสุด: 19 มิ.ย. 2025
56 ผู้เข้าชม

เย้! ได้กล้องวงจรปิดชุดใหม่มาแล้ว!" แต่พอแกะกล่องออกมา...มองกล้องที มองผนังที แล้วก็เกิดคำถามในใจว่า "แล้วจะติดยังไงล่ะเนี่ย?" ครั้นจะติดเอง ก็กลัวเจาะผิด, เดินสายไม่สวย, หรือตั้งค่าไม่เป็น...แต่พอจะจ้างช่าง ก็กลัวจะแพง! "ค่าติดตั้งมันคิดกันยังไงนะ?" "สรุปแล้ว ติดเองมันจะประหยัดกว่าจริงไหม?"

ไม่ต้องกังวลไปครับ! ในฐานะ คนที่คลุกคลีกับงานติดตั้งและเข้าใจหัวอกของคนรักบ้าน  วันนี้เราจะมา "ตีแผ่" ทุกเรื่องเกี่ยวกับ "ค่าติดตั้งกล้องวงจรปิด" แบบง่ายที่สุด สไตล์เพื่อนคุยกันเลย! เราจะมาดูกันว่าช่างเขาคิดราคากันจากอะไร และจะเทียบให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยระหว่าง "ทีมติดเอง (DIY)" กับ "ทีมจ้างช่าง (PRO)" ว่าแบบไหนจะเหมาะกับคุณที่สุด!

Part 1: "จ้างช่าง...เขาคิดราคากันยังไง?"

ค่าติดตั้งกล้องวงจรปิดมันไม่ใช่ราคาเหมาจ่ายตายตัวนะครับ แต่มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยมากๆ ที่ทำให้ราคาแตกต่างกันไป:

1.จำนวนกล้อง (Number of Cameras):

อันนี้เบสิกสุดครับ ยิ่งติดหลาย "จุด" ราคาก็ยิ่งสูงขึ้น ส่วนใหญ่มักจะคิดเป็น "ราคาต่อจุด" หรือเป็น "แพ็กเกจ" (เช่น แพ็กเกจ 4 จุด, 8 จุด)

2.ประเภทของกล้องและระบบ (System Type):

กล้องไร้สาย (Wi-Fi): ค่าแรงติดตั้ง มักจะถูกกว่า เพราะไม่ต้องเดินสายสัญญาณ LAN แค่เดินสายไฟ (ถ้าไม่มีแบตฯ) แล้วตั้งค่าเชื่อมต่อ Wi-Fi
กล้องเดินสาย (Analog/IP PoE): ค่าแรงติดตั้ง จะสูงกว่า เพราะมีงาน "เดินสายสัญญาณ" ที่ต้องใช้เวลาและฝีมือมากกว่าเยอะ

3."ความยาก" ของการเดินสาย 

  • เดินแบบ "ตีกิ๊บ" (Cable Clipping): คือเดินสายไปตามขอบผนังหรือกำแพง แล้วใช้กิ๊บตอกยึดสายไว้ จะถูกและเร็วกว่า แต่จะมองเห็นสาย
  • เดินแบบ "ร้อยท่อ" (Conduit): คือการเดินสายไฟ/สายสัญญาณซ่อนในท่อ PVC หรือท่อโลหะ ทำให้ สวยงาม เรียบร้อย และปลอดภัยกว่า แต่ก็ แพงกว่ามาก เพราะต้องใช้ทั้งวัสดุและฝีมือมากกว่า
    ความซับซ้อนของพื้นที่: บ้านชั้นเดียว กับบ้านสองชั้นที่ต้องเจาะเพดาน/ผนังข้ามชั้น, การเดินสายใต้ฝ้าหรือบนฝ้าที่ยากลำบาก, ระยะทางจากกล้องแต่ละตัวไปที่เครื่องบันทึก (NVR/DVR) ทั้งหมดนี้คือต้นทุนค่าแรงครับ

4.ความสูงในการติดตั้ง:

ติดกล้องชั้น 1 ย่อมถูกกว่าการปีนบันไดสูงๆ ไปติดกล้องใต้ชายคาชั้น 2 หรือบนเสา เพราะมันเสี่ยงกว่าและใช้เวลาเตรียมการมากกว่า

5.การตั้งค่าระบบ:

ราคามักจะรวมการตั้งค่าพื้นฐาน เช่น การตั้งค่าเครื่องบันทึก, การเชื่อมต่อให้ดูกล้องผ่านมือถือได้, และการสอนใช้งานเบื้องต้น

แล้วราคาประมาณเท่าไหร่?

 ราคาแตกต่างกันมากในแต่ละพื้นที่และผู้รับเหมานะครับ อันนี้เป็นแค่ "แนวทางคร่าวๆ"

ค่าแรงติดตั้ง (ไม่รวมค่าของ): อาจจะเริ่มที่ จุดละ 500 - 1,500 บาท หรือสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัย 5 ข้อข้างบนเลยครับ
แพ็กเกจรวมของ+ค่าติดตั้ง: เช่น ชุดกล้อง 4 ตัว พร้อมติดตั้ง อาจจะเริ่มที่หมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลายหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกล้องและลักษณะการเดินสาย

Part 2: "ศึกวัดใจ! ติดเอง (DIY) vs จ้างช่าง (PRO)" 

มาเทียบกันหมัดต่อหมัดเลย ว่าแบบไหนมีข้อดีข้อเสียยังไง:

ทีม "ติดเอง" (DIY Team) ️

ข้อดี :

  • ประหยัดค่าแรง! (นี่คือเหตุผลหลักเลย!)
  • ภูมิใจในผลงานตัวเอง (บ้านฉัน ฉันทำเอง!)
  • ได้เรียนรู้ ระบบการทำงานของกล้องวงจรปิด
  • ยืดหยุ่นเรื่องเวลา จะทำวันไหน ตอนไหนก็ได้ตามสะดวก

ข้อเสีย :

  • ใช้เวลาเยอะมาก! โดยเฉพาะถ้าไม่เคยทำมาก่อน การศึกษาข้อมูล, วางแผน, และลงมือทำจริงอาจใช้เวลาเป็นวันๆ
  • อาจจะไม่สวย/ไม่เนียน! การเดินสายอาจจะดูไม่เรียบร้อย ไม่สวยงามเหมือนช่างมืออาชีพทำ
  • เสี่ยง! ทั้งความเสี่ยงในการทำงาน (ตกบันได, ไฟดูดถ้าไม่ชำนาญ) และความเสี่ยงที่จะ ทำของ
  • พัง (เจาะผนังโดนท่อประปา/สายไฟ, ทำกล้องตกเสียหาย)
  • อาจจะตั้งค่าระบบได้ไม่เต็ม 100% หรือเจอปัญหาจุกจิกที่แก้ไม่ตก
  • ไม่มี "ประกันงานติดตั้ง" ถ้ามีปัญหาต้องแก้เอง

เหมาะกับใคร?: คนที่ พอมีทักษะช่าง อยู่บ้าง, มีเวลาและใจเย็น, ติดกล้องไร้สาย (Wi-Fi) ง่ายๆ 1-2 ตัว ในจุดที่ไม่สูง, หรือ ไม่ซีเรียสเรื่องความสวยงามของการเก็บสายมากนัก

ทีม "จ้างช่าง" (PRO Team)

ข้อดี :

  • เร็ว! สะดวก! สบาย! เราแค่บอกความต้องการ ที่เหลือช่างจัดการให้หมด
  • งานติดตั้ง "สวยงาม เรียบร้อย" การเดินสายจะเนียนกริ๊บ (โดยเฉพาะการร้อยท่อ)
  • วางมุมกล้องได้ "มืออาชีพ" ช่วยลดมุมอับได้ดีกว่า
  • ตั้งค่าระบบให้ "ครบถ้วน" พร้อมสอนใช้งานจนเราเป็น
  • มี "ประกันงานติดตั้ง" ถ้ามีปัญหาภายในระยะประกัน ช่างจะกลับมาดูแลให้
  • ปลอดภัยกว่า เพราะช่างมีเครื่องมือและความชำนาญ

ข้อเสีย :

  • มี "ค่าใช้จ่าย" เพิ่มเติม (ค่าแรงติดตั้ง)
  • ต้องนัดหมายเวลาให้ตรงกัน
  • เหมาะกับใคร?: คนที่ ต้องการความชัวร์และเนี๊ยบ, ติดตั้งกล้องหลายตัว หรือเป็นระบบเดินสายที่ซับซ้อน, ไม่มีเวลา หรือ ไม่มีทักษะ/เครื่องมือช่าง, หรือ ต้องการประกันความสบายใจ

แล้วสรุป...ทำเอง "ประหยัดกว่า" จริงเหรอ?

ถ้ามองแค่ "ตัวเงิน" ที่จ่ายออกไป...ใช่ครับ! การติดเองประหยัดค่าแรงไปได้หลายพันบาท

แต่! อย่าลืม "ต้นทุนแฝง" เหล่านี้:

"เวลา" ของคุณมีค่า: เวลาที่คุณต้องใช้ทั้งวันหรือหลายวันในการศึกษาและติดตั้ง คุณอาจจะเอาไปทำงานหาเงิน หรือพักผ่อนได้
"ค่าเครื่องมือ": ถ้าที่บ้านไม่มีสว่านดีๆ, บันไดสูงๆ, หรืออุปกรณ์เข้าหัวสาย LAN ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่ม
"ความเสี่ยงที่จะทำพลาด": ถ้าเจาะผิด, ทำกล้องพัง, หรือติดตั้งแล้วระบบมีปัญหาต้องมานั่งแก้ทีหลัง สุดท้ายอาจจะ "บานปลาย" แพงกว่าจ้างช่างตั้งแต่แรกก็ได้นะครับ

มันคือการเลือกระหว่าง ประหยัด "เงิน" กับการประหยัด "เวลา, แรง, และความปวดหัว" นั่นเองครับ

คำแนะนำจากใจ (จากคนเคยลองมาทั้งสองแบบ! -)

ติดเองได้เลยถ้า...: เป็น กล้องไร้สาย (Wi-Fi) แค่ 1-2 ตัว, ติดในจุดที่ไม่สูงมาก, ไม่ต้องเจาะผนังเยอะ, และคุณเป็นคนที่ชอบงาน DIY อยู่แล้ว

เรียกช่างดีกว่าถ้า...: เป็น ระบบเดินสาย (โดยเฉพาะ 4 จุดขึ้นไป), ต้องการ ร้อยท่อเก็บสายให้สวยงาม, ติดตั้งในที่สูงหรือจุดที่ยากลำบาก, หรือคุณ ไม่มั่นใจ/ไม่มีเวลาเลย การจ้างช่างมืออาชีพจะจบงานได้สวยงามและสบายใจกว่ามากครับ

บทสรุป: ไม่มีคำตอบที่ "ผิด" มีแต่ที่ "เหมาะสม" กับเราที่สุด!

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเลือกติดเองหรือจ้างช่าง ก็ไม่มีวิธีไหนผิดครับ  มันขึ้นอยู่กับ ความซับซ้อนของระบบ, ทักษะของเรา, งบประมาณ, และความสำคัญที่เราให้กับ "เวลา" และ "ความสวยงามเรียบร้อย"

ลองประเมินจากปัจจัยเหล่านี้ดูนะครับ ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีระบบกล้องวงจรปิดที่ทำงานได้จริง และช่วยให้คุณกับครอบครัวอุ่นใจได้...นั่นคือเป้าหมายสูงสุดครับ!

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ