แชร์

วิธีเลือกกล้องวงจรปิดในคอนโด

อัพเดทล่าสุด: 29 เม.ย. 2025

การใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ มอบความสะดวกสบาย แต่ก็มาพร้อมกับความกังวลเรื่องความปลอดภัย การมีกล้องวงจปิดในคอนโดถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอย่างที่เราเคยเห็นในข่าวว่ามีคนปีนจากห้องด้านบนลงมาห้องข้างล่างได้ แต่ถ้าเราสามารถเช็คว่าในห้องเรามีอะไรหรือไม่ก่อนเข้าห้องมันจะดีขนาดไหน ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับเราอีกด้วย และไม่ใช่แค่ดูสิ่งผิดปรก ตัวกล้องนั้นสามารถดูและคุยกับสัตว์เลี้ยงของเราได้อีก

วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีเลือกกล้องที่เหมาะสำหรับภายในห้องคอนโดกันนะครับ

1.ดูผ่านมือถือได้



บางคนอาจจะบอกว่าเดี่ยวนี้ทุกกล้องก็ดูได้แล้วแต่ไม่ใช่เลยนะครับเพราะบางยี่ห้อแอพที่ดูผ่านมือถือก็ยังไม่รองรับ ios เลยนะครับและบางที่มีแอพแล้วแต่ก็ยังไม่สเถียรบางทีเข้าแอพแล้วเด้งออกมาหรือเข้าแอพแล้วแต่ภาพไม่ขึ้น หรือสามารถเข้าแอปได้แต่ภาพไม่ตรงมีการกระตุกก็จะทำให้เราไม่สบายใจ

2.wifi



อันนี้เรื่องสำคัญที่บางคนยังไม่รู้เลยนะสินค้าตัวถูกบางตัวก็จะมีใช้ wifi 4 อยู่ ซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกคุณหรอกว่ามีแค่ wifiอย่างเดียวไม่ได้เจาะจง โดยมาตราฐานตอนนี้ของกล้องวงจรปิดภายในตอนนี้ไปถึง wifi 6 กันแล้วเพราะว่ากล้องนั้นมีความละเอียดสูงและถ้ายิ่งมี wifi ที่แรงก็จะทำให้เราดูวิดีโอได้แบบไม่สะดุดคมชัดและไม่มีการกระตุก แถมยังสามารถดูได้หลายคนอีกด้วย wifiเลยเป็นปัจจัยหลักที่คุณควรจะต้องดู

3.ai



ตอนนี้ใครๆก็ใช้aiแถมในกล้องวงจรปิดมีนะครับ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่มีราคาถูกก็จะไม่ค่อยเห็นฟังชั่นนี้ อย่างกล้องของเราสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว ตรวจจับ และติดตามมนุษย์ มีระบบตรวจจับเสียงผิดปกติ แก้วแตก  กระจกแตก เมื่อกล้องตรวจพบจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ทันที เป็นระบบที่น่าสนใจมากเลยใช่ไหมครับ ช่วยตรวจได้อีก1ขั้นถึงแม้เราไม่เปิดแอปดูแต่ก็มีแจ้งเตือน

4.ความคมชัด



เนี่ยก็เป็นอีกเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเพราะถ้ากล้องนั้นมองไม่ชัดก็ไม่สามารถดูเหตุการณ์ต่างๆในคอนโดได้และบางทีแสงก็น้อยด้วยทำให้ยิ่งไปกันใหญ่เลย เราอยากจะแนะนำให้ใช้รุ่นที่มีความคมชัดตั้งแต่ 2k ขึ้นไปเพื่อความคมชัดของภาพและสีสัน

5.รูรับแสง

หลายๆคนน่าจะยังไม่รู้นะครับว่ารูรับแสงคือส่วนสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะห้องคอนโดที่มีแสงน้อยก็ยิ่งต้องหากล้องที่มีรูรับแสงกว้าง อย่างกล้องของเรา รูรับแสงกว้างถึง F2.0 ทำงานได้ดีแม้ในสภาวะแสงน้อย จึงเหมาะมากสำหรับคอนโด

6.กล้องที่มองเห็นในความมึดได้



ในกล้องที่มีราคาหน่อยก็จะมีระบบนี้เสริมเข้ามาอย่างของเราก็จะเป็น Color Night Vision ที่จะช่วยให้ภาพในตอนมึดและมีแสงอยู่เป็นภาพสีได้มองเห็นได้อย่างชัดเจนแต่ถ้าในทีมึดสนิทก็จะเปลี่ยนเป็นภาพขาวดำ

7.มุมมองของกล้องวงจรปิด



ในตอนนี้กล้องวงจรปิดในบ้านมีความสามารถที่จะหมุนได้ถึง360องศาสามารถหมุนขึ้นลงได้ และ ยังมีแบบ 2เลนส์ ที่ สามารถดูได้จากคนละทางอีกด้วยทำให้เราสามารถดูได้2มุมมองพร้อมกันได้เลยทำให้ไม่ต้องซื้อกล้องวงจรปิดหลายตัวมีเพียงตัวเดียวก็พอ

8.การสื่อสาร



บางคอนโดที่เลี้ยงสัตว์ได้หรือมีแอบเลี้ยงแน่น่อนว่าเราต้องห่วงลูกๆของเราหรือจะใช้สื่อสารกับคนในห้องก็ได้ กล้องส่วนใหญ่จะมีไมค์ให้สามารถคุยกันได้ทั้ง2ฝั่งแล้วทำให้เราประหยัดค่าโทรไปได้อีก เรายังสามารถใช้ได้คุยกับผู้สูงอายุที่อยู่ในห้องได้อีกด้วยเพราะบางทีผู้สูงอายุอาจจะใช้โทรศัพท์ไม่เป็น ก็ใช้กล้องวงจรปิดนี้ได้เลย

วันนี้เราจะมาแนะนำกล้องที่น่าใช้สำหรับคอนโด

1.IMILAB C21

ขอเริ่มจากรุ่นแรกก่อนเลยเป็นรุ่นประหยัดที่สุดของทางร้านเราในราคาตัวปล่าวแค่899เท่านั้นโดยกล้องตัวนี้ให้ความคมชัด 4MP 2.5K ภาพไม่แตกแม้จะ Crop ภาพ 100% มีโหมด Color Night Vision โหมดกลางคืน คมชัด สีสันครบ สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว , ตรวจจับ และติดตามมนุษย์ มีระบบตรวจจับเสียงผิดปกติ แก้วแตก, กระจกแตก และอื่นๆ เมื่อกล้องตรวจพบจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ทันที บันทึกภาพได้ทั้ง Micro-SD Card และ Cloud Storage สามารถใส่ Micro-SD Card ได้สูงสุดถึง 256GB (Fat32)

 

 



มาพร้อม Cloud Storage บันทึกเมื่อจับเคลื่อนไหวได้เท่านั้น (ฟรี 3เดือน) มีรูรับแสงกว้างถึง F2.0 ทำงานได้ดีแม้ในสภาวะแสงน้อย มุมมองภาพกว้าง 105° รายละเอียดขอบภาพครบถ้วน กล้องหมุนซ้ายขวาได้ 360° และหมุนขึ้นลงได้ 110° สามารถตั้ง Preset กำหนดจุดที่จะหมุนได้ถึง 10 จุด มี Two Way Audio มีไมค์ และลำโพงสนทนาผ่านกล้องได้ สามารถสั่งงานผ่าน Amazon Alexa และ Google Assistant รองรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Mi Home แถมมีการรับประกันถึง2 ปี อีกด้วย เสียเปลี่ยนใหม่ไม่ต้องซ่อม

2.IMILAB C22

มาถึงรุ่นกลางๆของเราที่ราคาก็ยังถูกอยู่แค่ 1290 ตัวเปล่า อัพเกรดความคมชัดที่เหนือกว่า ด้วยความละเอียดภาพถึง 3K เก็บรายละเอียดภาพได้ครบ แม้จะซูมขยายภาพเหตุการณ์ ครั้งแรกกับ Wi-Fi 6 ที่อยู่ในกล้องวงจรปิดภายในบ้าน สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นถึง 30% หมุนซ้ายขวา 360° และหมุนขึ้นลง 115° ครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่า อัพเกรด AI ตรวจจับการเคลื่อนไหว , ตรวจจับ และติดตามมนุษย์ ระบบตรวจจับเสียงผิดปกติ แก้วแตก, กระจกแตก และเสียงเด็กร้อง เมื่อกล้องตรวจพบจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ทันที มีระบบ Two Way Audio มีไมค์ และลำโพงสนทนาผ่านกล้องได้

 

 


มีโหมดส่วนตัว ปิดการบันทึกภาพเพื่อเพิ่มความส่วนตัว สามารถเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน Mi Home ใช้งานง่าย และเสถียร รองรับหน่วยความจำ Micro-SD Card สูงสุด 256GB ต้องเป็น Format Fat32 เท่านั้น สามารถติดตั้งกล้องแบบกลับหัว (ติดตั้งบนเพดาน) มาพร้อมระบบ Full Color Night Vision คมชัด สีตรง แม้จะแสงน้อย หากมืดสนิทจะเปลี่ยนเป็นภาพขาว-ดำ แถมมีการรับประกันถึง2 ปี อีกด้วย เสียเปลี่ยนใหม่ไม่ต้องซ่อม

3.IMILAB C30 Dual

ตัวล่าสุดของทางเราซึ่งเป็นตัวที่มี 2 เลนส์ มีความละเอียดทั้ง 2เลนส์ที่ 3k ทั้งคู่ ความละเอียดภาพ 5MP+5MP พร้อมซูมภาพได้ถึง 6 ระดับ ภาพคมชัด ความละเอียดภาพนิ่งสูงถึง 2960 × 1666p เก็บภาพได้ครบทุกมุมมองแบบรอบทิศทาง 360° กล้องตัวบน หมุนซ้าย-ขวา ได้มากสุดถึง 355° และหมุนขึ้น-ลงได้ 60° กล้องตัวล่าง เป็นแบบ fix มุมมอง สำหรับพื้นที่ที่ต้องการดูแลตลอดเวลา Two-way Audio ระบบการโต้ตอบผ่านเสียง ที่สะดวก และรวดเร็ว สามารถสนทนาได้แบบเรียลไทม์ และเสียงจากกล้องวงจรปิดที่คมชัด AI Detection ตรวจจับแม่นยำได้ทั้งบุคคล และสัตว์เลี้ยง สามารถตรวจจับ เสียงดัง, เสียงเด็กร้องไห้ รวมถึงควันและเปลวไฟได้* ฟังก์ชันตรวจจับควันและเปลวไฟเป็นเวอร์ชันทดลอง ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเพิ่มเติม

ค่ำคืนไหนก็อุ่นใจกว่า ด้วยฟังก์ชัน Color Night Vision ให้ภาพสีในเวลากลางคืน สามารถแสดงภาพสีได้ในกรณีที่มีแสงไฟ และไม่มืดสนิท หากในพื้นที่มืดสนิท ไม่มีแสงไฟ กล้องจะปรับเป็นภาพขาวดำ ควบคุม และตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยง่ายๆ ผ่านแอปฯ Xiaomi Home สามารถตั้งค่าพื้นที่รักษาความปลอดภัย และแจ้งเตือนเมื่อมีผู้บุกรุก สามารถดูภาพแบบเรียลไทม์ และดูภาพเหตุการณ์ย้อนหลังได้ สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ในระบบ Xiaomi Ecosystem แชร์การดูภาพผ่านแอปฯ ทั้งแบบควบคุมกล้องได้ และดูอย่างเดียว ติดตั้งได้หลากหลายพื้นที่ สามารถติดตั้งได้ทั้งผนัง, เพดาน วางใช้งานบนโต๊ะ รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลผ่าน WiFi 6 (5GHz/2.4GHz) สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ผ่านหน่วยความจำ และ Cloud Storage รองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุด 256GB (Fat32) Cloud Storage บันทึกเมื่อจับเคลื่อนไหวได้เท่านั้น (ฟรี 3เดือน) รองรับการใช้งานร่วมกับ Amazon Alexa และ Google Assistant ในราคาตัวเปล่าแค่ 1990 เท่านั้น พร้อมประกัน 2 ปี เสียเคลมเปลี่ยนตัวใหม่ให้เลย

สรุป ถ้าในคอนโดเราอาศัยอยู่คนเดียวหรืออยู่กับน้องหมาแมว ก็ควรจะต้องมีกล้องวงจรปิดไว้ดูสถานะการณ์ในคอนโดเพื่อความอุ่นใจเวลาจะกลับคอนโดจะได้ไม่ต้องกังวลว่าภายในห้องมีสิ่งแปลกปลอมไหมจะได้เข้าห้องได้อย่างสบายใจ และยังสามารถให้แม่หรือพ่อดูหรือสนทนาผ่านกล้องได้อีกเหมือนกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ