สัญญาณเตือนว่ากล้องวงจรปิดถูกแฮกแล้ว! อย่ารอให้ภาพหลุดก่อนถึงจะรู้ตัว

" กล้องวงจรปิดที่ติดไว้เพื่อความปลอดภัย...
วันหนึ่งอาจกลายเป็นเครื่องมือที่คนอื่นใช้แอบดูเราโดยไม่รู้ตัว! "

ปัจจุบัน กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ (Smart CCTV) แทบทุกบ้านหรือสำนักงานมักเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อดูภาพแบบเรียลไทม์จากมือถือได้สะดวกขึ้น แต่ความสะดวกนั้นก็มาพร้อม ความเสี่ยง ที่หลายคนมองข้าม เพราะ กล้องวงจรปิดสามารถถูกแฮกได้จริง ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาดู สัญญาณเตือนสำคัญ ว่ากล้องวงจรปิดของคุณอาจถูกแฮกแล้ว พร้อมแนวทางตรวจสอบและรับมือก่อนข้อมูลส่วนตัวจะหลุดออกไปครับ

1. กล้องหันเอง ทั้งที่คุณไม่ได้สั่ง

ถ้ากล้องของคุณเป็นแบบหมุนได้ (PTZ Camera) แล้วจู่ๆ กล้องหันไปมุมอื่นโดยไม่มีใครควบคุม นั่นคือสัญญาณเตือนชัดๆ
เพราะแฮกเกอร์สามารถสั่งหมุนกล้องเพื่อดูพื้นที่อื่นได้จากระยะไกล

เคล็ดลับ: รีบถอดปลั๊ก หรือปิดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทันที แล้วตรวจสอบประวัติการล็อกอินจากแอปว่ามีอุปกรณ์แปลกปลอมเข้ามาหรือไม่

2. ไฟสถานะบนกล้องกระพริบผิดจังหวะ

โดยทั่วไป ไฟ LED บนกล้องจะติดนิ่งหรือกระพริบตามสถานะเชื่อมต่อ
แต่ถ้าอยู่ดีๆ ไฟเริ่มกระพริบแบบผิดปกติ ทั้งที่ไม่ได้เปิดแอปดูภาพ อาจมีใครบางคนกำลัง เข้าถึงระบบกล้องของคุณจากระยะไกล

3. กล้องเชื่อมต่อไม่ได้ หรือหลุดจากระบบบ่อย

หากกล้องของคุณหลุดจากระบบบ่อย ทั้งที่สัญญาณ Wi-Fi ปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณว่ามี อุปกรณ์อื่นพยายามเข้ามาในเครือข่ายเดียวกัน
บางกรณีแฮกเกอร์ใช้วิธี แทรกสัญญาณ (Interception) เพื่อเข้าควบคุมกล้อง

วิธีเช็ก: ลองเข้าไปที่ Router แล้วดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ ถ้ามีชื่ออุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก ให้บล็อกทันที

4. มีการล็อกอินจากประเทศหรืออุปกรณ์แปลกๆ

ในแอปกล้องหลายยี่ห้อ เช่น EZVIZ, IMOU, TP-Link Tapo, Xiaomi Home จะมีเมนู อุปกรณ์ที่เข้าสู่ระบบล่าสุด
ถ้าคุณเห็นการล็อกอินจากประเทศอื่น หรือเวลาแปลกๆ (เช่น ตี 3 ทั้งที่คุณไม่ได้เปิดดู) อาจมีคนกำลังสอดแนมผ่านกล้องของคุณอยู่

5. ได้รับการแจ้งเตือนเข้าดูภาพ ทั้งที่ไม่ได้เปิดเอง

หลายแอปกล้องจะส่งแจ้งเตือน (Notification) ทุกครั้งเมื่อมีคนเข้าใช้งานดูภาพสด
หากมีแจ้งเตือนขึ้นในเวลาที่คุณไม่ได้เปิด อย่ามองข้าม!
เพราะมันอาจหมายถึง มีคนอื่นกำลังดูภาพของคุณอยู่ตอนนี้

6. พบภาพหรือวิดีโอในระบบคลาวด์ที่คุณไม่เคยบันทึก

บางรุ่นที่บันทึกภาพบนคลาวด์ เช่น Google Home, IMOU Cloud, EZVIZ CloudPlay
หากคุณเห็นไฟล์วิดีโอหรือภาพที่ไม่เคยกดบันทึกเอง หรือชื่อไฟล์แปลกๆ ไม่ตรงกับเวลาใช้งานจริง มีโอกาสสูงมากว่ามีการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

7. แอปกล้องทำงานแปลก เช่น เด้งหลุดเองหรือโหลดช้า

หากแอปดูภาพกล้องค้างหรือเด้งออกเป็นระยะ ทั้งที่มือถือและอินเทอร์เน็ตปกติ
อาจเป็นเพราะมี Session ซ้อน หรือมีผู้ใช้งานอีกคนเปิดดูภาพพร้อมกับคุณ

️ สัญญาณนี้มักเกิดบ่อยในกล้องราคาถูก ที่ไม่มีระบบเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) หรือไม่ได้อัปเดตเฟิร์มแวร์นานแล้ว

8. อินเทอร์เน็ตบ้านช้าลงผิดปกติ

ถ้าความเร็วอินเทอร์เน็ตลดลงมากในช่วงที่ไม่ได้โหลดไฟล์หรือสตรีมวิดีโอ
ให้สงสัยไว้ก่อนว่า กล้องอาจกำลังอัปโหลดข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ซึ่งไม่ใช่ของผู้ผลิต

คุณสามารถตรวจสอบได้จาก Router Logs ว่ามีการส่งข้อมูลออกไปยัง IP Address แปลกๆ หรือไม่

9. เสียงพูดหรือเสียงแปลกๆ ออกจากลำโพงกล้อง

กล้องบางรุ่นมีไมค์และลำโพงในตัว (ใช้สื่อสารสองทางได้)
หากได้ยินเสียงคนพูดแปลกๆ ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ ให้ปิดระบบทันที!
นี่คือสัญญาณชัดว่าแฮกเกอร์เข้ามาควบคุมและเปิดไมค์ของคุณแล้ว

ถ้ากล้องถูกแฮกแล้ว ควรทำอย่างไร?

• รีเซ็ตกล้องเป็นค่าเริ่มต้น (Factory Reset)
• เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ทันที ทั้งกล้อง, แอป และ Wi-Fi
• อัปเดตเฟิร์มแวร์กล้องให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
• ปิดระบบ Remote Access ชั่วคราว
• เปิดใช้ Two-Factor Authentication (2FA)
• ตรวจสอบ Log จาก Router เพื่อดูว่ามี IP แปลกเข้ามาหรือไม่
• หากพบการละเมิดความเป็นส่วนตัวรุนแรง (ภาพหลุด, เสียงหลุด) ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานไซเบอร์ (เช่น ThaiCERT) ทันที

สรุป: สัญญาณเล็กๆ ที่อาจบอกว่าคุณ ถูกสอดแนมอยู่ตอนนี้

ปัญหา กล้องวงจรปิดถูกแฮก ไม่ได้เกิดเฉพาะกับองค์กรใหญ่เท่านั้น
แม้แต่บ้านทั่วไปก็เสี่ยงได้ ถ้าเราใช้รหัสผ่านง่าย ไม่อัปเดตซอฟต์แวร์ หรือแชร์ระบบให้คนอื่น

อย่ารอให้ภาพหลุดก่อนถึงจะรู้ตัว
ลองสังเกตสัญญาณเล็กๆ เหล่านี้ไว้เสมอ เช่น กล้องหันเอง ไฟกระพริบผิดปกติ หรือมีการล็อกอินจากต่างประเทศ
เพราะ ความปลอดภัยที่แท้จริง เริ่มจากการรู้ทัน