กล้องวงจรปิด onvif ดีกว่ากล้องวงจปิดทั่วไปอย่างไร
ในยุคที่เทคโนโลยีกล้องวงจรปิดพัฒนาอย่างรวดเร็ว มาตรฐาน ONVIF (Open Network Video Interface Forum) ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมต่อและควบคุมระบบกล้องวงจรปิด ด้วยความสามารถในการรองรับการทำงานร่วมกันของอุปกรณ์จากหลากหลายผู้ผลิต บทความนี้จะเจาะลึกถึงความแตกต่างระหว่าง กล้องวงจรปิด ONVIF และ กล้องวงจรปิดทั่วไป รวมถึงข้อดีข้อเสีย เพื่อช่วยให้คุณเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ
กล้องวงจรปิด ONVIF คืออะไร?
กล้องวงจรปิด ONVIF พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เข้ากันของอุปกรณ์จากผู้ผลิตรายต่าง ๆ มาตรฐานนี้ช่วยให้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด IP Camera และ Network Video Recorder (NVR) สามารถทำงานร่วมกันได้ไม่ว่าผู้ผลิตจะเป็นรายใด
ฟีเจอร์หลักของกล้องวงจรปิด ONVIF:
- การเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย: ใช้ระบบเครือข่าย (LAN/WAN) ในการส่งข้อมูลภาพและเสียง
- โปรโตคอลมาตรฐาน: รองรับมาตรฐานที่เปิดกว้าง เช่น โปรโตคอล RTSP, HTTP และการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อความปลอดภัย
- Plug and Play: รองรับการติดตั้งและตั้งค่าที่ง่าย แม้ในระบบที่ซับซ้อน
โปรไฟล์ย่อยของ ONVIF คืออะไร?
ONVIF ได้แบ่งฟังก์ชันการทำงานออกเป็นโปรไฟล์ย่อยๆ เพื่อให้การใช้งานมีความยืดหยุ่นและตรงตามความต้องการมากขึ้น โดยแต่ละโปรไฟล์จะรองรับฟังก์ชันที่แตกต่างกัน ดังนี้
- Profile S: เป็นโปรไฟล์พื้นฐานที่รองรับการสตรีมมิ่งวิดีโอและเสียง การควบคุม PTZ (Pan, Tilt, Zoom) และการกำหนดค่ากล้องเบื้องต้น เหมาะสำหรับกล้องวงจรปิดทั่วไปที่ต้องการฟังก์ชันพื้นฐาน
- Profile G: รองรับการบันทึกและค้นหาข้อมูลบันทึก รวมถึงการดึงข้อมูลจาก SD card ที่อยู่ในกล้อง เหมาะสำหรับระบบบันทึกวิดีโอ
- Profile C: รองรับระบบควบคุมการเข้าถึง เช่น การควบคุมประตู การเปิดปิดไฟ และการแจ้งเตือนต่างๆ เหมาะสำหรับระบบรักษาความปลอดภัยที่ต้องการควบคุมอุปกรณ์อื่นๆ ร่วมด้วย
- Profile Q: รองรับการค้นหาอุปกรณ์บนเครือข่าย ทำให้การติดตั้งและตั้งค่ากล้องวงจรปิดทำได้ง่ายขึ้น
- Profile A: เป็นโปรไฟล์ที่ขยายมาจาก Profile C โดยเพิ่มฟังก์ชันการจัดการการเข้าถึง เช่น การกำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งาน
- Profile T: รองรับการสตรีมมิ่งวิดีโอโดยใช้ H.264 และ H.265 codecs รวมถึงฟังก์ชันการวิเคราะห์วิดีโอเบื้องต้น
ข้อดีของกล้องวงจรปิด ONVIF
1.ความยืดหยุ่นในการเลือกใช้อุปกรณ์
- สามารถใช้งานร่วมกับ NVR หรือซอฟต์แวร์จัดการกล้องวงจรปิดจากผู้ผลิตรายใดก็ได้ที่รองรับ ONVIF
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับเปลี่ยนหรือขยายระบบในอนาคต
2.การติดตั้งและใช้งานง่าย
- รองรับการติดตั้งแบบ Plug and Play
มีคู่มือและเครื่องมือสนับสนุนที่ช่วยลดเวลาการตั้งค่า
3.การขยายระบบที่สะดวก
- เพิ่มจำนวนกล้องได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หลัก
4.การเข้าถึงและควบคุมจากระยะไกล
- ผู้ใช้สามารถดูภาพสด หรือบันทึกวิดีโอผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือคอมพิวเตอร์
5.การสนับสนุนฟีเจอร์หลากหลาย
- การแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
- การตรวจจับความเคลื่อนไหว
- การบันทึกวิดีโอคุณภาพสูง
ข้อเสียของกล้องวงจรปิด ONVIF
1.ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง
o ราคาของกล้องวงจรปิด ONVIF มักสูงกว่ากล้อง Analog
2.การตั้งค่าที่ซับซ้อน
o แม้ว่าจะรองรับ Plug and Play แต่การตั้งค่าขั้นสูง เช่น การเชื่อมต่อกับเครือข่ายหรือการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ อาจต้องใช้ความรู้เฉพาะทาง
3.ปัญหาความเข้ากันได้ในบางกรณี
o แม้จะใช้มาตรฐาน ONVIF แต่บางครั้งฟีเจอร์เฉพาะของผู้ผลิตอาจไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้
เปรียบเทียบ: กล้องวงจรปิดทั่วไป VS กล้องวงจรปิด ONVIF
คุณสมบัติ | กล้องวงจรปิดทั่วไป | กล้องวงจรปิด ONVIF |
คุณภาพของภาพ | ปานกลาง | คมชัดระดับ HD/4K |
การติดตั้ง | ยุ่งยาก | ง่ายและสะดวก |
การขยายระบบ | มีข้อจำกัด | ทำได้ง่าย |
ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ | จำกัดเฉพาะผู้ผลิตรายเดียว | รองรับหลายผู้ผลิต (มาตรฐาน ONVIF) |
การเข้าถึงระยะไกล | ไม่รองรับ | รองรับผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต |
วันนี้ทาง IMILAB THAILAND เลยอยากจะมาแนะนำ กล้องที่รองรับระบบ ONVIF
IMILAB EC6 Dual Pro 3K
เป็นกล้องวงจรปิดที่รองรับ ONVIF และเป็นกล้องวงจรปิด 2 เลนส์ในตัวเดียว การตรวจสอบแยกกัน ความคมชัดระดับ 3K+3K เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน Support Wi-Fi6 ส่งข้อมูล ดาวน์โหลดวิดีโอได้รวดเร็วแบบเรียลไทม์ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4 GHz หรือสามารถเชื่อมต่อกับสาย LAN ได้ มาพร้อม Smart Siren & Spotlights ส่งเสียงเตือน และไฟส่องสว่างช่วยให้ภาพชัดขึ้น เสียงไซเรนสามารถปรับระดับความดังของเสียงได้สูงสุด 100 dB มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่นระดับ IP66 ที่อุณหภูมิ -30~60 ทนทุกสภาพอากาศ เชื่อมต่อแอปฯ Mi Home ใช้งานง่าย และเสถียรกว่า เลนส์บนแพลนแบบ Manual ซ้าย-ขวาได้ 120° และขึ้น-ลง 10° เลนส์ล่างแพลน Auto ซ้าย-ขวาได้ 360° และขึ้น-ลง 135°
Two Motion Zone ตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ทั้ง 2 เลนส์ มาพร้อม Human Tacking ตรวจจับ และติดตามผู้บุกรุก หากเข้ามาในบริเวณเฝ้าระวัง มีระบบ Area Detection เสริมการทำงานของระบบป้องกันผู้บุกรุก ตรวจจับในโซนที่กำหนดไว้ และจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ทันที Sleep Mode สามารถใช้งานได้ทั้งเลนส์บน และเลนส์ล่าง เพิ่มความเป็นส่วนตัว Color Night Vision ทำงานทันทีเมื่อแสงรอบข้างมืดลง Two way audio รองรับการสนทนาได้แบบ 2 ทาง รองรับการทำงานกับ Amazon Alexa และ Google Assistant บันทึกภาพได้ทั้ง Micro-SD Card และ Cloud Storage Micro-SD Card ได้สูงสุดถึง 256GB (Fat32) Cloud Storage บันทึกเมื่อจับเคลื่อนไหวได้เท่านั้น (ฟรี 3เดือน) ตัวผลิตภัณฑ์สินค้ารับประกัน 2 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
1.กล้องวงจรปิด ONVIF เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นในการขยายระบบในอนาคต หรือสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยขั้นสูง
2.หากคุณมีงบประมาณจำกัดและต้องการกล้องสำหรับใช้งานเบื้องต้น กล้องวงจรปิดทั่วไป ก็เป็นตัวเลือกที่เพียงพอ
3.ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบ โปรไฟล์ ONVIF ที่กล้องรองรับ และความสามารถของ NVR หรือซอฟต์แวร์ที่ใช้ร่วมกัน