H.265 คืออะไร ทำไมกล้องวงจรปิดยุคใหม่ต้องมี

สมัยนี้ใครๆ ก็อยากได้กล้องวงจรปิดภาพชัดๆ ระดับ Full HD, 2K หรือแม้แต่ 4K กันทั้งนั้นใช่ไหมครับ? เพราะยิ่งชัด ก็ยิ่งเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าคนร้าย ป้ายทะเบียนรถ หรือเหตุการณ์สำคัญต่างๆ แต่... ปัญหามันอยู่ที่ว่า "ยิ่งภาพชัด ไฟล์ก็ยิ่งใหญ่!" ทำให้เมมโมรี่การ์ด (SD Card) หรือฮาร์ดดิสก์ (HDD) ในเครื่องบันทึกเต็มเร็วปรี๊ด! แป๊บๆ อัดทับของเก่าไปซะแล้ว จะซื้อเมมฯ/HDD ความจุเยอะๆ ก็แพงขึ้นไปอีก

 แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าคุณกำลังเจอปัญหานี้ หรือกำลังจะซื้อกล้องวงจรปิดตัวใหม่ คุณต้องรู้จักกับ "พระเอก" ที่จะมาช่วยแก้ปัญหานี้ นั่นก็คือเทคโนโลยีการบีบอัดไฟล์วิดีโอที่ชื่อว่า "H.265" นั่นเอง!

ในฐานะ คนที่คลุกคลีกับเทคโนโลยีกล้องวงจรปิดและระบบบันทึกภาพมานาน  วันนี้เราจะมาอธิบายแบบง่ายที่สุด สไตล์เพื่อนคุยกันเลยว่า H.265 มันคืออะไร? มันเจ๋งกว่า H.264 (แบบเก่า) ยังไง? แล้วทำไมกล้องวงจรปิดยุคใหม่ "ต้องมี" เทคโนโลยีนี้? รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะเข้าใจและเลือกซื้อกล้องได้อย่าง มั่นใจ มากขึ้นแน่นอนครับ!

H.265 (หรือ HEVC) มันคืออะไรกันแน่? (ง่ายๆ คือ "นักบีบไฟล์อัจฉริยะ!")

ชื่อเต็มๆ: H.265 หรืออีกชื่อคือ HEVC (High Efficiency Video Coding)

หน้าที่หลัก: มันคือ "มาตรฐานการบีบอัดไฟล์วิดีโอแบบใหม่ล่าสุด" ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก H.264 (AVC - Advanced Video Coding) ซึ่งเป็นมาตรฐานเก่าที่เราใช้กันมานาน

เปรียบเทียบให้เห็นภาพ: ลองนึกภาพว่าคุณมีเสื้อผ้ากองใหญ่ๆ

H.264: เหมือนคุณพับเสื้อผ้าแบบธรรมดาๆ ใส่กระเป๋า ก็ประหยัดที่ได้ระดับหนึ่ง

H.265: เหมือนคุณมี "เครื่องซีลถุงสูญญากาศ" ที่สามารถดูดอากาศออก ทำให้เสื้อผ้ากองเดิม "เล็กลงได้อีกเยอะมาก!" โดยที่จำนวนเสื้อผ้า (คุณภาพภาพ) ยังอยู่ครบเท่าเดิม!

แล้ว H.265 มัน "ดีกว่า" H.264 ยังไง?

นี่คือเหตุผลที่กล้องวงจรปิดยุคใหม่ควรจะมี H.265:

ประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล "เกือบเท่าตัว"!

หัวใจสำคัญเลย! H.265 สามารถ บีบอัดไฟล์วิดีโอให้มีขนาดเล็กลงได้ถึงประมาณ 40-50% เมื่อเทียบกับ H.264 โดยที่ "คุณภาพของภาพยังคมชัดเท่าเดิม!"

ผลลัพธ์?:

เมมโมรี่การ์ด/ฮาร์ดดิสก์ "ความจุเท่าเดิม" แต่อัดวิดีโอได้ "นานขึ้นเกือบสองเท่า!" เช่น จากเดิมอัดได้ 7 วัน ก็อาจจะอัดได้ถึง 12-14 วัน!

หรือถ้าอยากอัดให้นานเท่าเดิม ก็สามารถ ใช้เมมฯ/HDD ที่มีความจุน้อยลงได้ ประหยัดเงินค่าหน่วยความจำไปอีก!

ลดการใช้ "แบนด์วิดท์อินเทอร์เน็ต"

เมื่อไฟล์วิดีโอมีขนาดเล็กลง การ ดูภาพสดหรือภาพย้อนหลังผ่านมือถือ/คอมพิวเตอร์ (โดยเฉพาะผ่านอินเทอร์เน็ต 3G/4G/5G) ก็จะใช้ ปริมาณข้อมูล (Data) อินเทอร์เน็ตน้อยลง และ ดูได้ลื่นไหล ไม่กระตุก มากขึ้นด้วยครับ

เหมาะมากสำหรับคนที่ติดกล้องหลายตัว หรือต้องการดูออนไลน์บ่อยๆ

คุณภาพภาพยัง "เป๊ะ" เหมือนเดิม

แม้จะบีบอัดไฟล์เก่งขึ้น แต่ H.265 ก็ยังคง รักษาคุณภาพและความคมชัดของภาพวิดีโอไว้ได้ดีเยี่ยม ไม่ได้ทำให้ภาพแตกหรือรายละเอียดหายไปเหมือนการลด Bitrate หนักๆ ใน H.264

ทำไมกล้องวงจรปิด "ยุคใหม่" ถึง "ต้องมี" H.265?

กล้องชัดขึ้นทุกวัน: เดี๋ยวนี้กล้องวงจรปิดความละเอียด 2K, 4K, หรือแม้แต่ 5MP, 8MP กลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งไฟล์มันใหญ่มาก! ถ้ายังใช้ H.264 แบบเก่าอยู่ เมมฯ เต็มเร็วแน่นอน H.265 จึงจำเป็นสุดๆ สำหรับกล้องความละเอียดสูง

คุ้มค่าระยะยาว: การลงทุนกับกล้องที่รองรับ H.265 อาจจะดูเหมือนจ่ายเพิ่มนิดหน่อยในตอนแรก แต่ในระยะยาว คุณจะ ประหยัดค่าเมมโมรี่การ์ด/ฮาร์ดดิสก์ (ไม่ต้องซื้อความจุสูงเว่อร์) และ ประหยัดค่าอินเทอร์เน็ต (ถ้าดูออนไลน์บ่อย) ได้มากกว่า

เป็นมาตรฐานอนาคต: เทคโนโลยีใหม่ๆ มักจะรองรับ H.265 เป็นหลักแล้ว การเลือกกล้องที่มี H.265 ก็เหมือนเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ไม่ตกรุ่นง่ายๆ

เช็คยังไงว่ากล้องวงจรปิดของเรารองรับ H.265?

ดูที่สเปกสินค้า: ตอนซื้อกล้องใหม่ หรือดูสเปกกล้องเก่า ให้มองหาคำว่า "H.265", "HEVC", หรือ "H.265+" (H.265+ คือเวอร์ชันที่พัฒนาต่อยอดจาก H.265 ให้บีบอัดได้ดีขึ้นไปอีกนิด โดยเฉพาะกับภาพที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว)

ข้อควรรู้เล็กน้อย

เครื่องบันทึก (NVR/DVR) ก็ต้องรองรับ H.265 ด้วยนะ! ถ้ากล้องเป็น H.265 แต่เครื่องบันทึกเป็นรุ่นเก่าที่ไม่รองรับ มันก็อาจจะบันทึกเป็น H.264 อยู่ดี หรืออาจจะมองไม่เห็นกล้องเลย

การดูไฟล์ H.265 บนคอมพิวเตอร์หรือมือถือรุ่นเก่ามากๆ อาจจะต้องใช้โปรแกรมหรือแอปฯ ที่รองรับ Codec นี้ด้วย (แต่ปัจจุบันอุปกรณ์ส่วนใหญ่รองรับกันหมดแล้ว)

บทสรุป: H.265 เพื่อนซี้คนรักกล้องชัด (แต่ไม่อยากเปลืองเมมฯ!)

เทคโนโลยี H.265 ไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือซับซ้อนเกินเข้าใจนะครับ แต่มันคือ "ตัวช่วยสำคัญ" ที่ทำให้เราสามารถใช้กล้องวงจรปิดความละเอียดสูงๆ ได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลว่าเมมจะเต็มเร็ว หรือต้องจ่ายค่าอินเทอร์เน็ตบานปลาย
ครั้งต่อไปที่คุณจะซื้อกล้องวงจรปิด หรือกำลังจะตั้งค่ากล้องตัวเก่า อย่าลืมมองหาและเลือกใช้ H.265 (หรือ H.265+) นะครับ  แล้วคุณจะพบว่าการมีกล้องชัดๆ พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลเหลือๆ มันดีต่อใจจริงๆ!